ทำไมพัดลมไอเย็นถึงเหมาะกับครัวร้านอาหาร?
ข้อดีที่ตอบโจทย์พื้นที่ครัว
ระบายความร้อนได้ดี
ลดอุณหภูมิได้ 2-5 องศา
ช่วยหมุนเวียนอากาศร้อน
ทำงานได้ดีในพื้นที่เปิด
ประหยัดค่าใช้จ่าย
ค่าไฟถูกกว่าแอร์ 90%
ไม่ต้องปิดพื้นที่ครัว
บำรุงรักษาง่าย
เหมาะกับสภาพแวดล้อมครัว
ทนความร้อนสูง
ไม่มีปัญหากับไอน้ำมัน
เคลื่อนย้ายได้ตามต้องการ
วิธีเลือกพัดลมไอเย็นสำหรับครัว
คุณสมบัติที่ควรมี
กำลังไฟและประสิทธิภาพ
กำลังไฟ 100-200 วัตต์
ความแรงลม 2,000-3,000 CFM
ถังน้ำความจุ 20-40 ลิตร
วัสดุและการออกแบบ
โครงสร้างแข็งแรงทนความร้อน
แผ่นกรองที่ล้างทำความสะอาดง่าย
มีล้อเลื่อนแข็งแรง
ฟังก์ชันพิเศษ
ปรับแรงลมได้หลายระดับ
ส่ายซ้าย-ขวาอัตโนมัติ
ระบบแจ้งเตือนน้ำหมด
การติดตั้งและวางตำแหน่ง
จุดติดตั้งที่เหมาะสม
ตำแหน่งที่แนะนำ
ห่างจากเตา 2-3 เมตร
ไม่กีดขวางทางเดิน
ใกล้ช่องระบายอากาศ
การจัดวางหลายเครื่อง
วางให้ลมไม่ปะทะกัน
กระจายให้ทั่วพื้นที่
คำนึงถึงทิศทางลม
การคำนวณจำนวนเครื่อง
พื้นที่ครัวขนาดต่างๆ ควรใช้:
ไม่เกิน 20 ตร.ม.: 1 เครื่อง
20-40 ตร.ม.: 2 เครื่อง
40 ตร.ม. ขึ้นไป: 3 เครื่องขึ้นไป
การดูแลรักษาในพื้นที่ครัว
การทำความสะอาดประจำวัน
เช็ดภายนอก
ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ
เช็ดคราบน้ำมัน
ตรวจสอบใบพัด
ดูแลระบบน้ำ
เปลี่ยนน้ำทุกวัน
ล้างถังน้ำ
เช็คการรั่วซึม
การบำรุงรักษารายสัปดาห์
ทำความสะอาดแผ่นรังผึ้ง
ล้างด้วยน้ำยาทำความสะอาด
ขจัดคราบมัน
ผึ่งให้แห้งสนิท
ตรวจสอบระบบ
เช็คปั๊มน้ำ
ทำความสะอาดพัดลม
ตรวจสอบการทำงาน
เทคนิคการใช้งานให้มีประสิทธิภาพ
การใช้งานประจำวัน
ก่อนเริ่มงาน
เปิดก่อนเริ่มทำอาหาร 30 นาที
ตรวจสอบระดับน้ำ
เช็คความสะอาด
ระหว่างวัน
เติมน้ำเมื่อจำเป็น
ปรับทิศทางลมตามการใช้งาน
สังเกตประสิทธิภาพ
การประหยัดพลังงาน
ใช้งานอย่างฉลาด
เลือกความเร็วที่เหมาะสม
ตั้งเวลาการทำงาน
หมั่นทำความสะอาด
การคำนวณความคุ้มค่า
ต้นทุนและผลตอบแทน
ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น
ราคาเครื่อง
ค่าติดตั้ง (ถ้ามี)
อุปกรณ์เสริม
ค่าใช้จ่ายรายเดือน
ค่าไฟฟ้า
ค่าบำรุงรักษา
ค่าน้ำ
สรุป
พัดลมไอเย็นเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับครัวร้านอาหาร ด้วยคุณสมบัติที่เหมาะกับสภาพแวดล้อมในครัว ประหยัดค่าใช้จ่าย และดูแลรักษาง่าย การเลือกเครื่องที่เหมาะสม ติดตั้งถูกตำแหน่ง และดูแลรักษาอย่างถูกวิธี จะช่วยให้การทำงานในครัวมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับพนักงาน